ในงานจะประกอบไปด้วยการเสวนา เรื่องมาตรการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตัดทุเรียนอ่อนโดยผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนเกษตรกรและผู้แทนผู้รับซื้อผลไม้นอกจากนั้นยังมีการบรรยายและสาธิตการใช้เครื่องวัดคุณภาพทุเรียนโดยใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดอย่างไพร่ซึ่งเป็นเครื่องมือ วัดความสุกแก่ของทุเรียนโดยไม่ทำลายตัวอย่างผลงานจาก ผศ.ดร. รณฤทธิ์ ฤทธิรณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และการเข้าเยี่ยมชมสวนทุเรียนคุณภาพและโรงงานแปรรูปทุเรียนในพื้นที่อำเภอปะทิวจังหวัดชุมพรทั้งนี้ผลที่คาดได้ว่าจะได้รับการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ดังกล่าว สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพของ 14 จังหวัดภาคใต้ที่อาจจะปะปนเข้ามาในตลาดทุเรียนภาคใต้และสร้างความตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากมีการนำทุเรียนด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาดให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้
นายธาร นวลนึก เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ ๘ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผย การจัดการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อน ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตผลไม้เขตร้อนที่สำคัญของโลกซึ่งผลไม้เศรษฐกิจหลักสำคัญของประเทศไทยได้แก่ทุเรียนที่สามารถปลูกและให้ผลผลิตได้ทุกภูมิภาคโดยในปี 2561 มีพื้นที่ให้ผลผลิต 690951 ไร่และคาดว่าจะมีผลผลิตรวม 734,284 ตัน ในขณะที่ภาคใต้เป็นแหล่งผลิตใหญ่รองลงมาจากภาคตะวันออกโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชุมพรที่มีพื้นที่ให้ผลผลิตสูงเป็นอันดับที่สองรองจากจังหวัดจันทบุรีและผลผลิตมากกว่าร้อยละ 50 ของผลผลิตทุเรียนภาคใต้มีกลุ่มลงผลไม้หรือผู้รวบรวมสินค้าเกษตรสำหรับจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศเปิดจุดรับซื้อจำนวนมากและพร้อมจะรับซื้อทั้งผลผลิตของจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียงอีกทั้งราคาจำหน่ายทุเรียนในปี 2561 มีแนวโน้มสูงขึ้น จากปีก่อนก่อนซึ่งผลผลิตที่ออก มาก่อนฤดู การมักจะได้ราคาสูงอาจเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ไม่สุก แก่หรือที่เรียกว่าทุเรียนอ่อนส่งมาจำหน่ายในตลาด ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาผลผลิตด้อยคุณภาพไม่ได้มาตรฐานเข้าสู่ตลาด ทำ ให้กระทบต่อชื่อเสียงของประเทศไทย และตลาดต่างประเทศขาดความเชื่อถือในสินค้าจากแหล่งผลิตภาคใต้จนอาจทำให้ราคาของทุเรียนตกต่ำจากการที่มีสินค้าด้อยคุณภาพปะปนกับสินค้าคุณภาพมีการระบายสินค้าออกได้ช้าซึ่งจะทำให้มีผลผลิตตกค้างเน่าเสียหายและเป็นการทำลายรายได้และเศรษฐกิจของเกษตรกรที่มีผลผลิตออกในช่วงฤดูการปกติซึ่งจะเก็บเกี่ยวช้ากว่าผลผลิตกลุ่มนี้อีกทั้งปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ และให้นำมาตรการทางกฎหมายเข้ามาใช้อย่าง เคร่งครัดซึ่งจะเป็นการป้องกันได้อีกทางหนึ่งด้วย จากผลดังกล่าวข้างต้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนหากมีการนำทุเรียนด้อยคุณภาพเข้าสู่ตลาดจึงได้ดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนอาจจะเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขเกิดปัญหาดังกล่าวต่อไปได้ในอนาคต
ธนากร รายงาน
ทีมข่าว Offer news
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น