วันที่ 27 สิงหาคม 2561ทีมข่าว offer news ได้ลงพื้นที่ ท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เนื่องจากมีการกล่าวถึงในโลกออนไลน์ เรื่องของร้านค้าในสนามบิน ใช้ถุงผ้า สีสันสวยงามแทนถุงพลาสติก ที่ใส่ของให้ลูกค้า
จากการลงพื้นที่ ได้พบกับ นางสาว ปิยะดา เกตุหลิม เจ้าของร้านขายสินค้า OTOP ชื่อ Otop &Souvenir กับ สโลแกน ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก ซึ่งนางสาว ปิยะดา เกตุหลิม ได้กล่าวว่า ใน1 ปีที่ผ่านมา ที่ได้ทำกิจกรรมนี้ สามารถ ลดการใช้ถุงพลาสติกกว่า 7000 ใบ ซึ่งถือมาเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว เมื่อทีมข่าวได้ถามว่า แล้วแบบนี้ จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับทางร้านหรือไม่ ก็ได้คำตอบที่ว่า ก็ไม่เห็นว่าจะทำให้รายรับลดน้อยลงเลย กลับกลายเป็นขายดีอีกด้วย เพราะลูกค้าบางส่วน ชื่นชอบในถุงผ้า และอยากสนับสนุนการลดใช้ถุงพลายติก
ปัจจุบันกระแสการลดโลกร้อน ลดขยะพลาสติก กำลังแพร่หลายไปทั่วประเทศไทย การใช้แก้วน้ำเก็บความเย็น แทนแก้วพลาสติก กำลังเป็นที่นิยม และมีหลายร้านค้าร่วมกันทำกิจกรรมในการลดใช้แก้วพลาสติก โดยการลดราคาให้กับผู้ที่พาแก้วมาใส่น้ำด้วยตนเอง รวมถึงการใช้ถุงผ้าเพื่อใส่สินค้า ปฎิเสธการใช้ถุง เนื่องจากในแต่ละวัน มีขยะพลาสติกจำนวนมากเกิดขึ้น เป็นขยะสะสม ไม่สามารถย่อยสลายด้วยตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันในจังหวัดชุมพรมีหลายกลุ่มลุกขึ้นมารณรงค์การลดใช้พลาสติก เช่น กลุ่ม Trash hero chumphon กลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
นางสาวพัชรพรรณ โชติช่วง / ภาพ
นายสราวุฒ ขวัญไชยโภคา ทีมข่าว Offer news รายงาน
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ชุมพร จัดพิธีตัดต้นไม้ ทำเสาหลักเมือง
เมื่อเวลา 09.19 น. ของวันที่ 25 ส.ค. 2561 นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เป็นประธานในพิธีศักดิ์ สิทธ์ ชองประชาชนคนชุมพรเพื่อตัดต้นไม้เพื่อใช้ในการทำเสาหลักเมืองชุมพร ที่ชำรุดมาก่อนหน้า โดยได้เข้าไปพื้นที่ รร.บ้านวังมะปราง หมู่ที่3 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อร่วมเป็นประธานในการตัดต้นไม้มงคล ร่วมกับนายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพรตัดต้นไม้ต้นชัยพฤกษ์ ที่เข้าลักษณะตามที่พราหม์ดูเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อนำเอาไปซ่อมเสาหลักเมืองตัวเก่าที่ชำรุด
นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งและได้รับรายงานว่าเสาหลักเมืองชำรุด และได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนทราบว่าจะต้องซ่อมแซมและขั้นตอนในการปฏิบัติได้ทราบว่าทางนายกฯเทศบาลเมืองชุมพรได้มีการกำหนดการที่จะซ่อมแซมดูแลซึ่งเพียงบอกให้หาไม้โดยให้ทางกรมป่าไม้หาไม้ดังกล่าวแต่ปรากฏว่าทางป่าไม้หาไม่ได้เลยกำหนดการมามากเพราะจะต้องเร่งด่วนในการซ่อมสร้าง จนล่าสุดได้ทราบว่าทางนายกอบต. คุริง อ.ท่าแซะ ชุมพรได้บอกว่าที่ในพื้นที่มีต้นไม่ที่จะหาอยู่แต่ไม่ทราบว่าจะ ใช้ได้หรือไม จึงได้มีการประสานไปยัง นายทวี เทพจินดา อายุ 76 หมอพราหมณ์ที่เคยดูแลและกระทำพิธีทางนี้มาก่อนเพื่อให้มาดูและ ปรากฎว่า นายทวี เทพจินดา หมอพราหม์ นั้นบอกเข้าลักณะใช้ได้และดีมากตามลักษณะต้นไม้มงคล มีขนาดรอบวง150ชม.และความสูง 2.70 เมตร ตามลักษณะจึงได้หากฤษ์ยามเพื่อเข้าทำการตัดเพื่อออกมาใช้โดยการตากให้แห้งและสร้างทำต่อไป
นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งและได้รับรายงานว่าเสาหลักเมืองชำรุด และได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนทราบว่าจะต้องซ่อมแซมและขั้นตอนในการปฏิบัติได้ทราบว่าทางนายกฯเทศบาลเมืองชุมพรได้มีการกำหนดการที่จะซ่อมแซมดูแลซึ่งเพียงบอกให้หาไม้โดยให้ทางกรมป่าไม้หาไม้ดังกล่าวแต่ปรากฏว่าทางป่าไม้หาไม่ได้เลยกำหนดการมามากเพราะจะต้องเร่งด่วนในการซ่อมสร้าง จนล่าสุดได้ทราบว่าทางนายกอบต. คุริง อ.ท่าแซะ ชุมพรได้บอกว่าที่ในพื้นที่มีต้นไม่ที่จะหาอยู่แต่ไม่ทราบว่าจะ ใช้ได้หรือไม จึงได้มีการประสานไปยัง นายทวี เทพจินดา อายุ 76 หมอพราหมณ์ที่เคยดูแลและกระทำพิธีทางนี้มาก่อนเพื่อให้มาดูและ ปรากฎว่า นายทวี เทพจินดา หมอพราหม์ นั้นบอกเข้าลักณะใช้ได้และดีมากตามลักษณะต้นไม้มงคล มีขนาดรอบวง150ชม.และความสูง 2.70 เมตร ตามลักษณะจึงได้หากฤษ์ยามเพื่อเข้าทำการตัดเพื่อออกมาใช้โดยการตากให้แห้งและสร้างทำต่อไป
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ชุมพร - จัดพิธีมอบบ้านพัก ให้แก่คนพิการที่ยากไร้
วันที่ 24 สิงหาคม 2561 เวลา 10.00น. พลตรี ฐิติ ติตถะสิริผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เป็นประธานในพิธีมอบบ้านพักแก่คนพิการที่ยากไร้ และข้าวสารอาหารแห้งช่วยเหลือให้แก่ผู้พิการ นายสำเนา ผลประมูล ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร โดยมีอาจารย์ประภาส สมแก้วนายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไวสากล ประจำจังหวัดชุมพร – ระนอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และประชาชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
การสร้างบ้านพักให้คนพิการที่ยากไร้ หลังที่ 5 อาจารย์ประภาส สมแก้วเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยได้รับการช่วยเหลือจากมณฑลทหารบกที่ 44ได้ให้กำลังพล จำนวน 11 นาย ดำเนินการสร้างบ้านพักให้คนพิการที่ยากไร้ หลังที่ 5 แล้วเสร็จใน วันที่ 24สิงหาคม 2561 และได้ทำพิธีส่งมอบบ้านกันในวันนี้ ในการก่อสร้างบ้านพักคนพิการที่ยากไร้ ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจาก ร้านสมชายวัสดุก่อสร้างชุมพร หจก.ลิ้มกวงฮวด ชุมพร ที่ได้บริจาค อิฐ หิน ดิน ทราย ปูนซีเมนต์ มาเป็นวัสดุในการก่อสร้างให้คนพิการที่ยากไร้ ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นเงินบริจาคจากภาคเอกชน โดยผ่านทางสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไวสากล ประจำจังหวัดชุมพร – ระนอง
พลตรี ฐิติ ติตถะสิริผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เผย ในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 44 ให้การช่วยเหลือในโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพ ได้มีการสังการให้ทหารในพื้นที่ ให้ดูแลพีน้องประชาชนในพื้นที่ ตรงไหนที่มีความยากลำบากให้ลงไปแก้ไขช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชน และในพื้นที่จังหวัดชุมพรก็มีจำนวนคนพิการจำนวน 3-4 ราย ทางมณฑลทหารบกที่ 44ก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปจนครบ ผู้ที่มีความเดือดร้อง แจ้งมาได้ที่ ก่องกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 44 แล้วจะจัดชุดลงไปดำเนินการตรวจสอบสภาพแล้วจะประเมิน พร้อมประสานงานหน่วยงานในพื้นที่ เช่น พมจ.ชุมพร และมณฑลทหารบกที่ 44 ก็จะช่วยเหลือด้านแรงงานและงบประมาณบางส่วน เพื่อประโยชน์สุขของพีน้องประชาชนชาวชุมพร ที่มณฑลทหารบกที่ 44 ได้รับคำสั่งจากท่านผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพ การดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับการเดือดร้อนและยากไร้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต่อไป
ช่วยเหลือผู้พิการได้โดยการบริจาค โทร 0894740249 อาจารย์ประภาส สมแก้วประธานสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไวสากล ประจำจังหวัดชุมพร – ระนอง
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ชุมพร
การสร้างบ้านพักให้คนพิการที่ยากไร้ หลังที่ 5 อาจารย์ประภาส สมแก้วเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยได้รับการช่วยเหลือจากมณฑลทหารบกที่ 44ได้ให้กำลังพล จำนวน 11 นาย ดำเนินการสร้างบ้านพักให้คนพิการที่ยากไร้ หลังที่ 5 แล้วเสร็จใน วันที่ 24สิงหาคม 2561 และได้ทำพิธีส่งมอบบ้านกันในวันนี้ ในการก่อสร้างบ้านพักคนพิการที่ยากไร้ ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจาก ร้านสมชายวัสดุก่อสร้างชุมพร หจก.ลิ้มกวงฮวด ชุมพร ที่ได้บริจาค อิฐ หิน ดิน ทราย ปูนซีเมนต์ มาเป็นวัสดุในการก่อสร้างให้คนพิการที่ยากไร้ ส่วนงบประมาณที่เหลือเป็นเงินบริจาคจากภาคเอกชน โดยผ่านทางสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไวสากล ประจำจังหวัดชุมพร – ระนอง
พลตรี ฐิติ ติตถะสิริผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เผย ในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 44 ให้การช่วยเหลือในโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพ ได้มีการสังการให้ทหารในพื้นที่ ให้ดูแลพีน้องประชาชนในพื้นที่ ตรงไหนที่มีความยากลำบากให้ลงไปแก้ไขช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชน และในพื้นที่จังหวัดชุมพรก็มีจำนวนคนพิการจำนวน 3-4 ราย ทางมณฑลทหารบกที่ 44ก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปจนครบ ผู้ที่มีความเดือดร้อง แจ้งมาได้ที่ ก่องกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 44 แล้วจะจัดชุดลงไปดำเนินการตรวจสอบสภาพแล้วจะประเมิน พร้อมประสานงานหน่วยงานในพื้นที่ เช่น พมจ.ชุมพร และมณฑลทหารบกที่ 44 ก็จะช่วยเหลือด้านแรงงานและงบประมาณบางส่วน เพื่อประโยชน์สุขของพีน้องประชาชนชาวชุมพร ที่มณฑลทหารบกที่ 44 ได้รับคำสั่งจากท่านผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพ การดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับการเดือดร้อนและยากไร้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต่อไป
ช่วยเหลือผู้พิการได้โดยการบริจาค โทร 0894740249 อาจารย์ประภาส สมแก้วประธานสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไวสากล ประจำจังหวัดชุมพร – ระนอง
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514 ชุมพร
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561
จังหวัดชุมพรคัดเลือกบ้านปากน้ำละแม เป็นหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ระดับจังหวัด
วันนี้ (23 สิงหาคม 2561) ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชุมพรชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายเลิศพรไชย ไชยฤทธิ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการประกวดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ระดับจังหวัด จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อคัดเลือกชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ระดับจังหวัด จังหวัดชุมพร เพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดชุมพรเข้าประกวดระดับประเทศ
ชุมชนที่ส่งเข้าร่วมคัดเลือกในครั้งนี้ มี 7 ชุมชนจาก 7 อำเภอ ประกอบด้วย บ้านปากคลองพนังตัก หมู่ที่ 7 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร บ้านแหลมแท่น หมู่ที่ 1 ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว บ้านเสียบญวน หมู่ที่ 5 ตำบลด่านสวี อำเภอสวี บ้านปากตะโก หมู่ที่ 1 ตำบลปากตะโกอำเภอทุ่งตะโก บ้านเกาะพิทักษ์ หมู่ที่ 4 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน บ้านปากน้ำละแม หมู่ที่ 1 ตำบลละแม อำเภอละแม และบ้านท่าตีน หมู่ที่ 7 ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ
คณะกรรมการได้คัดเลือก โดยพิจารณาให้คะแนนจาก 3 ด้าน คือ
- ด้านการบริหารจัดการชุมชน 40 คะแนน
- ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ 40 คะแนน
- และด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว 20 คะแนน
ผลปรากฏว่า บ้านปากน้ำละแมหมู่ที่ 1 ตำบลละแมอำเภอละแม ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP จังหวัดวิถี ระดับจังหวัด จังหวัดชุมพร ได้รับเงินรางวัล 2 แสนบาท และได้เป็นตัวแทนจังหวัดชุมพร เข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ ต่อไป ซึ่งคณะกรรมการระดับประเทศจะลงมาตรวจประเมินเพื่อให้คะแนนในวันที่ 6 กันยายนนี้ และหากชนะระดับประเทศก็จะได้เงินรางวัลอีก 3 แสนบาท
ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นแนวคิดพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ ให้สามรถขายสินค้าได้ภายในชุมชน โดยนำเสน่ห์ของแต่ละชุมชน เช่น ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ แล่งท่องเที่ยว มาเป็นแรงดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าถึงชุมชน ซึ่งต่างจาก OTOP เดิมที่ต้องนำสินค้าออกไปขายนอกชุมชน กิจกรรมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จะคัดเลือกจากชุมชนที่มีศักยภาพใน 76 จังหวัด 878 ตำบลอำเภอ อำเภอละ 3-5 แหล่งท่องเที่ยว พร้อมเข้าไปสร้างความเข้าใจกับชุมชนทั้งช่วยวิเคราะห์เสน่ห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ของชุมชนนั้น กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการค้าต่อนักท่องเที่ยว
จังหวัดชุมพรดำเนินโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวน 29 หมู่บ้าน ใน 22 ตำบล 8 อำเภอ กิจกรรมการประกวดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ชุมชนตื่นตัว ในการพัฒนาให้มีศักยภาพเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เปิดโอกาสให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิธีแสดงขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวและเป็นต้นแบบให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อื่น โดยคัดเลือกชุมชนที่ชนะเลิศระดับจังหวัด 1 ชุมชน เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ สำหรับชุมชนที่ชนะเลิศในระดับจังหวัด จะได้รับรางวัล 200,000 บาท และถ้าชนะเลิศในระดับประเทศจะได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท
ทีมข่าว offernews รายงาน
ชุมชนที่ส่งเข้าร่วมคัดเลือกในครั้งนี้ มี 7 ชุมชนจาก 7 อำเภอ ประกอบด้วย บ้านปากคลองพนังตัก หมู่ที่ 7 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร บ้านแหลมแท่น หมู่ที่ 1 ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว บ้านเสียบญวน หมู่ที่ 5 ตำบลด่านสวี อำเภอสวี บ้านปากตะโก หมู่ที่ 1 ตำบลปากตะโกอำเภอทุ่งตะโก บ้านเกาะพิทักษ์ หมู่ที่ 4 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน บ้านปากน้ำละแม หมู่ที่ 1 ตำบลละแม อำเภอละแม และบ้านท่าตีน หมู่ที่ 7 ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ
คณะกรรมการได้คัดเลือก โดยพิจารณาให้คะแนนจาก 3 ด้าน คือ
- ด้านการบริหารจัดการชุมชน 40 คะแนน
- ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ 40 คะแนน
- และด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว 20 คะแนน
ผลปรากฏว่า บ้านปากน้ำละแมหมู่ที่ 1 ตำบลละแมอำเภอละแม ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP จังหวัดวิถี ระดับจังหวัด จังหวัดชุมพร ได้รับเงินรางวัล 2 แสนบาท และได้เป็นตัวแทนจังหวัดชุมพร เข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ ต่อไป ซึ่งคณะกรรมการระดับประเทศจะลงมาตรวจประเมินเพื่อให้คะแนนในวันที่ 6 กันยายนนี้ และหากชนะระดับประเทศก็จะได้เงินรางวัลอีก 3 แสนบาท
ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นแนวคิดพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ ให้สามรถขายสินค้าได้ภายในชุมชน โดยนำเสน่ห์ของแต่ละชุมชน เช่น ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ แล่งท่องเที่ยว มาเป็นแรงดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าถึงชุมชน ซึ่งต่างจาก OTOP เดิมที่ต้องนำสินค้าออกไปขายนอกชุมชน กิจกรรมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จะคัดเลือกจากชุมชนที่มีศักยภาพใน 76 จังหวัด 878 ตำบลอำเภอ อำเภอละ 3-5 แหล่งท่องเที่ยว พร้อมเข้าไปสร้างความเข้าใจกับชุมชนทั้งช่วยวิเคราะห์เสน่ห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ของชุมชนนั้น กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการค้าต่อนักท่องเที่ยว
จังหวัดชุมพรดำเนินโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวน 29 หมู่บ้าน ใน 22 ตำบล 8 อำเภอ กิจกรรมการประกวดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ชุมชนตื่นตัว ในการพัฒนาให้มีศักยภาพเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เปิดโอกาสให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิธีแสดงขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวและเป็นต้นแบบให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อื่น โดยคัดเลือกชุมชนที่ชนะเลิศระดับจังหวัด 1 ชุมชน เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ สำหรับชุมชนที่ชนะเลิศในระดับจังหวัด จะได้รับรางวัล 200,000 บาท และถ้าชนะเลิศในระดับประเทศจะได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท
ทีมข่าว offernews รายงาน
จังหวัดชุมพรประชุมกลุ่มจังหวัดพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Thailand Riviera)
วันที่ 23 สิงหาคม 2561 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมเกาะมัตตรา ศาลากลางจังหวัดชุมพร ชั้น 2 นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร่วมการประชุมคณะกรรมการพัฒนาท่องเที่ยว ประจำเขต
พัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ครั้งที่ 1/2556 โดยมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และ จังหวัดระนอง เข้าร่วมการประชุม
ซึ่งตามที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 ได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Royal Coast หรือ Thailand Riviera)ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง ให้เต็มตามศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐในอนาคต เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระจายรายได้สู่เมืองรองและชุมชนตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
โดยมีแนวคิดขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่ Thailand Riviera เป็นการท่องเที่ยวตามเส้น แนวดิ่ง ประกอบด้วย 1 แนวเขาตะนาวศรี 2 แนวถนนเพชรเกษม 3 แนวทางรถไฟ 4 แนวชายทะเล 5 แนวประมงชายฝั่ง และขยายแนว ความเชื่อมโยงระหว่างชายฝั่งทะเลกับเทือกเขาตะนาวศรี เพื่อให้แนวดิ่งทั้ง 5 ถูกใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ จัดหาพื้นที่ทำแหล่งน้ำจืดเพื่อลดความขัดแย้งแย่งชิงน้ำระหว่างภาคเกษตรและภาคการท่องเที่ยว พัฒนาและตัดเชื่อมถนนชมวิวสวยๆ เพื่อช่วยลดความแออัดจากสายเพชรเกษม พัฒนาปรับปรุงและเพิ่มชานชลารถไฟที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่ออนุรักษ์สถานีรถไฟโบราณไว้ให้คงอยู่ และสำรวจค้นหาอาหารถิ่นขึ้นชื่อ จัดให้มีร้าน มีย่านจำหน่ายอาหารถิ่น มีเกษตรปลอดสาร เกษตรปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำแผนแม่บทพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก The Royal Coast เพื่อสนองคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ภายใต้วิสัยทัศน์ "สู่การเป็นพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย"
ซึ่งมีการกำหนดตำแหน่งทางการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความแตกต่างและการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ในการเชื่อมโยงทรัพยากรการท่องเที่ยวและรูปแบบการท่องเที่ยว ที่มีในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระจายและความยั่งยืน โดยกำหนดตำแหน่งเป็นจุดยึดหลัก ที่จะเชื่อมโยงแต่ละจังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ จังหวัดเพชรบุรี เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เน้นการท่องเที่ยวเชิงนันทนาการและการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน จังหวัดชุมพร เน้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และจังหวัดระนอง เน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการส่งเสริมสุขภาพ
ทีมข่าว offernews รายงาย

พัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ครั้งที่ 1/2556 โดยมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และ จังหวัดระนอง เข้าร่วมการประชุม
ซึ่งตามที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 ได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Royal Coast หรือ Thailand Riviera)ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง ให้เต็มตามศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ รวมถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐในอนาคต เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระจายรายได้สู่เมืองรองและชุมชนตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
โดยมีแนวคิดขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในพื้นที่ Thailand Riviera เป็นการท่องเที่ยวตามเส้น แนวดิ่ง ประกอบด้วย 1 แนวเขาตะนาวศรี 2 แนวถนนเพชรเกษม 3 แนวทางรถไฟ 4 แนวชายทะเล 5 แนวประมงชายฝั่ง และขยายแนว ความเชื่อมโยงระหว่างชายฝั่งทะเลกับเทือกเขาตะนาวศรี เพื่อให้แนวดิ่งทั้ง 5 ถูกใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ จัดหาพื้นที่ทำแหล่งน้ำจืดเพื่อลดความขัดแย้งแย่งชิงน้ำระหว่างภาคเกษตรและภาคการท่องเที่ยว พัฒนาและตัดเชื่อมถนนชมวิวสวยๆ เพื่อช่วยลดความแออัดจากสายเพชรเกษม พัฒนาปรับปรุงและเพิ่มชานชลารถไฟที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่ออนุรักษ์สถานีรถไฟโบราณไว้ให้คงอยู่ และสำรวจค้นหาอาหารถิ่นขึ้นชื่อ จัดให้มีร้าน มีย่านจำหน่ายอาหารถิ่น มีเกษตรปลอดสาร เกษตรปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำแผนแม่บทพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก The Royal Coast เพื่อสนองคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ภายใต้วิสัยทัศน์ "สู่การเป็นพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย"
ซึ่งมีการกำหนดตำแหน่งทางการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความแตกต่างและการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ในการเชื่อมโยงทรัพยากรการท่องเที่ยวและรูปแบบการท่องเที่ยว ที่มีในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระจายและความยั่งยืน โดยกำหนดตำแหน่งเป็นจุดยึดหลัก ที่จะเชื่อมโยงแต่ละจังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ จังหวัดเพชรบุรี เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เน้นการท่องเที่ยวเชิงนันทนาการและการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน จังหวัดชุมพร เน้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และจังหวัดระนอง เน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการส่งเสริมสุขภาพ
ทีมข่าว offernews รายงาย
ชุมพรฝึกอบรม กฎหมาย ระเบียบเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
วันนี้ (22 ส.ค. 61) นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรม กฎหมาย ระเบียบเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยสำนักงานคลังจังหวัดชุมพร จัดขึ้น ซึ่งเป็นการอบรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในเรื่องของกฎหมาย และระเบียบเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น รุ่นที่ 1 จัดระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม 2561 รุ่นที่ 2 จากระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมมรกตทวิน อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
นางสาวสิส์ภรัฎฐ์ เจริญโอสถ คลังจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ในฐานะหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่กำกับดูแลกำหนดกฎระเบียบแนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุภาครัฐ จึงต้องสร้างความเข้าใจ พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหารายละเอียด และสาระสำคัญ ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 และกฎหมายลำดับรองอื่นๆ รวมถึงหนังสือเวียนเกี่ยวกับพัสดุ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุของหน่วยงานของภาครัฐ มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล โดยในปีงบประมาณ 2561 สำนักงานคลังจังหวัดชุมพร ได้ฝึกอบรมด้านเนื้อหา รวมทั้งอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐแล้ว รวมทั้งสิ้น 4 โครงการ
สำหรับการอบรมครั้งนี้ ได้ให้ความรู้ตาม พ.ร.บ. และระเบียบ ร่วมถึงเนื้อหาหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการของรัฐมีคุณภาพยิ่งขึ้น และผู้ประกอบการสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง กับหน่วยงานของรัฐ ได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ทำให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณเกิดความรวดเร็วเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และทำให้หน่วยงานจัดเก็บภาษีสามารถจัดเก็บภาษีของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น อีกด้วย
ทีม ข่าว Offernews รายงาน
นางสาวสิส์ภรัฎฐ์ เจริญโอสถ คลังจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ในฐานะหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่กำกับดูแลกำหนดกฎระเบียบแนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุภาครัฐ จึงต้องสร้างความเข้าใจ พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหารายละเอียด และสาระสำคัญ ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ. 2560 และกฎหมายลำดับรองอื่นๆ รวมถึงหนังสือเวียนเกี่ยวกับพัสดุ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุของหน่วยงานของภาครัฐ มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล โดยในปีงบประมาณ 2561 สำนักงานคลังจังหวัดชุมพร ได้ฝึกอบรมด้านเนื้อหา รวมทั้งอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐแล้ว รวมทั้งสิ้น 4 โครงการ
สำหรับการอบรมครั้งนี้ ได้ให้ความรู้ตาม พ.ร.บ. และระเบียบ ร่วมถึงเนื้อหาหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการของรัฐมีคุณภาพยิ่งขึ้น และผู้ประกอบการสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง กับหน่วยงานของรัฐ ได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ทำให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณเกิดความรวดเร็วเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และทำให้หน่วยงานจัดเก็บภาษีสามารถจัดเก็บภาษีของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น อีกด้วย
ทีม ข่าว Offernews รายงาน
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561
นายกย้ำชัด ไม่ได้หาเสียง ไม่หวังผลทางการเมือง ในการลงพื้นที่ ครม สัญจร
ขอบคุณชาวใต้ที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นและเต็มใจมา เตรียมผลักดัน ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงไทยแลนด์ ริเวียร่ากับการท่องเที่ยวโลก
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง) และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล) ณ.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร(สจล.ชุมพร)
โดยเป็นการมารับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชน ทั้ง 11 จังหวัด ภาคใต้ ร้อยละ 80 มีแผนอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปพิจารณาและพัฒนาโดยทุกเรื่องที่เสนอมา อยู่ในแผนแม่บท ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการระเบียง เศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor) หรือ SEC ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกด้าน รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม และการท่องเที่ยว ขณะที่ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร ส่งเสริมการปลูก ข้าว ปาล์ม ยางพารา อ้อย และข้าวโพด แต่ต้องคำนึงถึงตลาดที่รองรับ
โดยมอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อมูล Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในการทำการเกษตร ภายใต้กฎกติกาภายใต้สัญญาณกลุ่มประเทศ ขณะที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ขอให้เป็นไปตามการบริหารจัดงานของรัฐบาล และเป็นไปตามความต้องการและประสิทธิภาพของคนในพื้นที่ ยืนยันว่ารัฐบาลทำตามกรอบแผนงานทุกอย่าง พร้อมเน้นย้ำการขจัดขยะพลาสติกเพื่อพัฒนาเป็นไทยแลนด์ ริเวียร่า
ส่วนเรื่องของโครงการการทำประชารัฐและไทยนิยมมีความก้าวหน้าเป็นจำนวนมาก ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น การลงทุนในEECต้องมีการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ ซึ่งได้มีการดำเนินงานระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชนโดยการประชุม กรอ. มาไม่ได้อนุมัติทุกโครงการที่นำเสนอมายืนยันว่าเศษฐกิจในประเทศดีขึ้นมาก ขอประชาชนอย่าทำประเทศถอยหลังด้วยการเมือง ไม่เช่นนั้นประเทศจะกลับสู่ที่เก่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เหมือนเดิม ขอบคุณประชาชนภาคใต้ที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นและการเดินทางมาลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้หวังผลทางการเมืองหรือเลือกตั้งแข่งกับใคร
โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองขับ "ฟอร์มูล่าประหยัดพลังงาน"งานฝีมือนักศึกษาแดนใต้ยุคใหม่ รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับครูอาจารย์และนักศึกษา พร้อมเยี่ยมชมผลงานของนักศึกษา สจล.ชุมพร และชมนวัตกรรมฟาร์มเกษตรยุคใหม่
จากนั้น ภายหลังการแถลงผลการประชุม ได้เดินทาง ไป ปล่อยลูกปูม้า จำนวน 10 ล้านตัว ชายหาด สจล.ชุมพร และเยี่ยมชมธนาคารปูม้าอัจฉริยะ และจากนั้นได้เดินทางไป เยี่ยมชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ก่อนจะเดิ่นทางกลับ กทม.ด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง) และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล) ณ.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร(สจล.ชุมพร)
โดยเป็นการมารับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชน ทั้ง 11 จังหวัด ภาคใต้ ร้อยละ 80 มีแผนอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปพิจารณาและพัฒนาโดยทุกเรื่องที่เสนอมา อยู่ในแผนแม่บท ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการระเบียง เศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor) หรือ SEC ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในทุกด้าน รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม และการท่องเที่ยว ขณะที่ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร ส่งเสริมการปลูก ข้าว ปาล์ม ยางพารา อ้อย และข้าวโพด แต่ต้องคำนึงถึงตลาดที่รองรับ
โดยมอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อมูล Big Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในการทำการเกษตร ภายใต้กฎกติกาภายใต้สัญญาณกลุ่มประเทศ ขณะที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ขอให้เป็นไปตามการบริหารจัดงานของรัฐบาล และเป็นไปตามความต้องการและประสิทธิภาพของคนในพื้นที่ ยืนยันว่ารัฐบาลทำตามกรอบแผนงานทุกอย่าง พร้อมเน้นย้ำการขจัดขยะพลาสติกเพื่อพัฒนาเป็นไทยแลนด์ ริเวียร่า
ส่วนเรื่องของโครงการการทำประชารัฐและไทยนิยมมีความก้าวหน้าเป็นจำนวนมาก ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น การลงทุนในEECต้องมีการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ ซึ่งได้มีการดำเนินงานระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชนโดยการประชุม กรอ. มาไม่ได้อนุมัติทุกโครงการที่นำเสนอมายืนยันว่าเศษฐกิจในประเทศดีขึ้นมาก ขอประชาชนอย่าทำประเทศถอยหลังด้วยการเมือง ไม่เช่นนั้นประเทศจะกลับสู่ที่เก่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เหมือนเดิม ขอบคุณประชาชนภาคใต้ที่ต้อนรับอย่างอบอุ่นและการเดินทางมาลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้หวังผลทางการเมืองหรือเลือกตั้งแข่งกับใคร
โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองขับ "ฟอร์มูล่าประหยัดพลังงาน"งานฝีมือนักศึกษาแดนใต้ยุคใหม่ รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับครูอาจารย์และนักศึกษา พร้อมเยี่ยมชมผลงานของนักศึกษา สจล.ชุมพร และชมนวัตกรรมฟาร์มเกษตรยุคใหม่
จากนั้น ภายหลังการแถลงผลการประชุม ได้เดินทาง ไป ปล่อยลูกปูม้า จำนวน 10 ล้านตัว ชายหาด สจล.ชุมพร และเยี่ยมชมธนาคารปูม้าอัจฉริยะ และจากนั้นได้เดินทางไป เยี่ยมชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ก่อนจะเดิ่นทางกลับ กทม.ด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ

ชุมพร - ทีมสัตวแพทย์ กรมอุทยานฯ ผ่าพิสูจน์ “เจ้าโทน”เสร็จแล้ว ยังไม่ฟันธง ต้องรอผลจากห้องแล็บ อีก 7วัน
วันนี้ ( 6 ส.ค.61) นายสมเจตน์
จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว พร้อมด้วย
ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว นายพิชัย โพธิกระสังข์
หน.กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สนง.ปศุสัตว์ จ.ชุมพร และ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทิศใต้ จ.ชุมพร
ได้ร่วมกันผ่าพิสูจน์เจ้าโทนวัวกระทิงหนุ่มวัย 10 ปี
หลังจากล้มตายลงโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 3
วันก่อนภายในสวนปาล์มน้ำมันวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร หมู่ 8 ต.ทุ่งตะโก
อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร โดยมีชาวบ้านที่มีความผูกพันกับเจ้าโทนกระทิงหนุ่มเฝ้าติดตามรอผลการตายอย่างใกล้ชิดพร้อมกับใช้มือถือถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วยความอาลัยจากการจากไปของเจ้าโทน เป็นอย่างมาก
นายสมเจตน์ จันทนา
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
กล่าวว่า
หลังจากที่ได้นำทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมาผ่าซากพิสูจน์ดูเนื้ออวัยวะภายในต่างๆเพื่อนำเข้าตรวจอย่างละเอียดในห้องแล็บ
ซึ่งก็ต้องรอผลพิสูจน์การตายของเจ้าโทน อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งซากในส่วนตัวของเจ้าโทนวัวกระทิงหนุ่ม
ช่วงบ่ายวันนี้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร
ได้ร่วมกับชาวบ้านที่มีความผูกพันกับเจ้าโทนก็จะไปทำพิธีทางสงฆ์ในและฝังในเขตวิทยาลัยเกษตรฯ
ซึ่งในพิธีดังกล่าวจะมีชาวบ้านนำลูกของเจ้าโทนทั้งหมดเท่าที่จะนำมาได้ร่วมด้วยคาดว่าเกือบหลักร้อยตัว และในส่วนของหัวเจ้าโทนต้องนำเก็บไว้เป็นส่วนของราชการต่อไป หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวฯ
กล่าวอีกว่า
เบื้องต้นในการผ่าพิสูจน์พบว่ามีรอยช้ำเลือดคลั่งบริเวณลำคออวัยวะภายในผิดรูปและช้ำมาก
แต่ยังสรุปอะไรไม่ได้ตอนนี้
ส่วนบรรยากาศในพิธีทำบุญให้กับเจ้าโทนกระทิงป่าที่เข้ามาอยู่พื้นที่
อ.ทุ่งตะโก เป็นเวลา 5-6 ปี ที่ผ่านมา จนกลายเป็นส่วนหนึ่งชาวทุ่งตะโกไปแล้ว
ก่อนจะมาสิ้นลมหายใจไปเมื่อ 2 - วัน ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว
พร้อมด้วยคณะครู อาจารย์ และนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร
ได้มาร่วมพิธีสวดส่งวิญญาน และร่วมไว้อาลัยแก่เจ้าโทนกันเป็นจำนวนมาก
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ก.อุตสาหกรรม เตรียมผลักดันออยปาล์มซิตี้
เมืองยางพาราพื้นที่ภาคใต้ ให้เป็นรูปธรรม
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการหารือกับส่วนราชการ และภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ก็ได้ข้อสรุปตามข้อเสนอของภาคเอกชนพื้นที่ภาคใต้ 3 ประเด็น เพื่อตอบสนองตามแนวทางการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปครบวงจร คือ 1.การจัดตั้งออยปาล์มซิตี้ (Oil palm City) เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของปาล์ม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 โดยภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเสนอโครงการศูนย์เรียนรู้และส่งเสริม "นวัตกรรมปาล์มน้ำมัน" เพื่อสนับสนุนโครงการ "สุราษฎ์ธานี ออยปาล์มซิตี้" โดยศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการด้านปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล (Big Data) องค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน เป็นศูนย์พยาการณ์อนาคตอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน สนับสนุนการเกิดธุรกิจรายใหม่ และเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคใต้ และภาคเอกชน ในการพัฒนาศูนย์ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
2.เมืองนวัตกรรมและการออกแบบไม้ยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการจัดการมาตรฐานการจัดการป่าไม้ยั่งยืน และรองรับ Industry 4.0 ยกระดับมาตรฐานไม้ยางพาราให้ได้มาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (FSC) ส่งเสริมการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมยางพารา ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมมีศูนย์ปฎิรูปอุตสาหรรมเชิงสร้างสรรค์ (ITC) ที่จ.สุราษฎ์ธานี เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงหน่วยงานเครือข่ายในการบูรณาการบริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เอาเอ็มอีสามารถยกระดับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้พื้นที่จัดตั้งโครงการจะตั้งอยู่ที่อ.กันตัง จ.ตรัง ขนาดพื้นที่กว่าพันไร่ และ 3.การส่งเสริมและพัฒนางานวิจัย (R&D) ทางด้านสมุนไพร ได้กำหนดพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีเครือข่ายสมุนไพรที่เข้มแข็ง ซึ่งปัจจุบันนี้มีโรงงานต้นแบบ คือ วิสาหกิจชุมชนขมิ้นชันปลอดสารพิษ (บ้านตาขุน) ซึ่งกลุ่มเครือข่ายสมุนไพรจังหวัดสุราษฎร์มีความต้องการใช้โรงงานต้นแบบแปรรูปสมุนไพรนี้ ผลิตอาหารให้ได้มาตรฐาน อย. และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (GMP) ด้านอาหาร จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมลงพื้นที่ช่วยเหลือและขยายโรงงานต้นแบบในพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องเป้าหมายการเป็นเมืองแห่งสมุนไพรเอเชีย
ทั้งนี้ข้อเสนอของภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 3 ประเด็นนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำเสนอในการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2561 วันที่ 21 สิงหาคม 2561ให้พิจารณาในการดำเนินการต่อไป
ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) สู่การเป็นเมืองนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานเศรษฐกิจเกษตรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าและการบริการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของภาคใต้สู่การแข่งขันตลาดโลก ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ไม้ยางพารา) แห่งใหม่ของประเทศ และพัฒนาสินค้าเกษตรหลักของภาค รวมทั้งเชื่อมโยงการพัฒนาและนิคมอุตสาหกรรมยางพารา เมืองไม้ยาง ให้เป็นฐานเศรษฐกิจที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน พัฒนาเขตอุตสาหกรรม นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และข้อเสนอทั้ง 3 ข้อของภาคเอกชน ก็จะอยู่ภายในโครงการนี้ด้วย จึงต้องศึกษาให้รอบด้าน เพื่อให้เกิดเป็นโครงการเช่นเดียวกับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
นอกจากนี้ ในช่วงบ่าย นายสมชาย ได้ลงพื้นที่บริษัท ซีเฟรชอินดัชตรี จำกัด (มหาชน) อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง บริษัท สันติภาพ (ฮั้วเพ้ง 1985) จำกัด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ผู้ผลิตผลไม้กระป๋อง ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีความต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยีการแปรรูป จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับบริษัทในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต
ด้านสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด และบริษัทวิจิตรภัณฑ์ ปาล์มออยส์ จำกัด (มหาชน) เป็นโรงงานที่ตรงกับแนวทางการจัดตั้งปาล์มออยซิตี้ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายสมชาย กล่าวว่า จะสรุปปัญหาและความต้องการของภาคเอกชน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดตั้งปาล์มออยซิตี้ให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่ภาคใต้
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการหารือกับส่วนราชการ และภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ก็ได้ข้อสรุปตามข้อเสนอของภาคเอกชนพื้นที่ภาคใต้ 3 ประเด็น เพื่อตอบสนองตามแนวทางการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปครบวงจร คือ 1.การจัดตั้งออยปาล์มซิตี้ (Oil palm City) เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของปาล์ม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 โดยภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเสนอโครงการศูนย์เรียนรู้และส่งเสริม "นวัตกรรมปาล์มน้ำมัน" เพื่อสนับสนุนโครงการ "สุราษฎ์ธานี ออยปาล์มซิตี้" โดยศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการด้านปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล (Big Data) องค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน เป็นศูนย์พยาการณ์อนาคตอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน สนับสนุนการเกิดธุรกิจรายใหม่ และเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคใต้ และภาคเอกชน ในการพัฒนาศูนย์ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
2.เมืองนวัตกรรมและการออกแบบไม้ยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการจัดการมาตรฐานการจัดการป่าไม้ยั่งยืน และรองรับ Industry 4.0 ยกระดับมาตรฐานไม้ยางพาราให้ได้มาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (FSC) ส่งเสริมการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมยางพารา ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมมีศูนย์ปฎิรูปอุตสาหรรมเชิงสร้างสรรค์ (ITC) ที่จ.สุราษฎ์ธานี เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงหน่วยงานเครือข่ายในการบูรณาการบริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เอาเอ็มอีสามารถยกระดับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้พื้นที่จัดตั้งโครงการจะตั้งอยู่ที่อ.กันตัง จ.ตรัง ขนาดพื้นที่กว่าพันไร่ และ 3.การส่งเสริมและพัฒนางานวิจัย (R&D) ทางด้านสมุนไพร ได้กำหนดพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีเครือข่ายสมุนไพรที่เข้มแข็ง ซึ่งปัจจุบันนี้มีโรงงานต้นแบบ คือ วิสาหกิจชุมชนขมิ้นชันปลอดสารพิษ (บ้านตาขุน) ซึ่งกลุ่มเครือข่ายสมุนไพรจังหวัดสุราษฎร์มีความต้องการใช้โรงงานต้นแบบแปรรูปสมุนไพรนี้ ผลิตอาหารให้ได้มาตรฐาน อย. และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (GMP) ด้านอาหาร จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมลงพื้นที่ช่วยเหลือและขยายโรงงานต้นแบบในพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องเป้าหมายการเป็นเมืองแห่งสมุนไพรเอเชีย
ทั้งนี้ข้อเสนอของภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 3 ประเด็นนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำเสนอในการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2561 วันที่ 21 สิงหาคม 2561ให้พิจารณาในการดำเนินการต่อไป
ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) สู่การเป็นเมืองนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานเศรษฐกิจเกษตรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าและการบริการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของภาคใต้สู่การแข่งขันตลาดโลก ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ไม้ยางพารา) แห่งใหม่ของประเทศ และพัฒนาสินค้าเกษตรหลักของภาค รวมทั้งเชื่อมโยงการพัฒนาและนิคมอุตสาหกรรมยางพารา เมืองไม้ยาง ให้เป็นฐานเศรษฐกิจที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน พัฒนาเขตอุตสาหกรรม นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และข้อเสนอทั้ง 3 ข้อของภาคเอกชน ก็จะอยู่ภายในโครงการนี้ด้วย จึงต้องศึกษาให้รอบด้าน เพื่อให้เกิดเป็นโครงการเช่นเดียวกับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
นอกจากนี้ ในช่วงบ่าย นายสมชาย ได้ลงพื้นที่บริษัท ซีเฟรชอินดัชตรี จำกัด (มหาชน) อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง บริษัท สันติภาพ (ฮั้วเพ้ง 1985) จำกัด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ผู้ผลิตผลไม้กระป๋อง ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีความต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยีการแปรรูป จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับบริษัทในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต
ด้านสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด และบริษัทวิจิตรภัณฑ์ ปาล์มออยส์ จำกัด (มหาชน) เป็นโรงงานที่ตรงกับแนวทางการจัดตั้งปาล์มออยซิตี้ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายสมชาย กล่าวว่า จะสรุปปัญหาและความต้องการของภาคเอกชน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดตั้งปาล์มออยซิตี้ให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่ภาคใต้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
แอดมินเพจดัง "แจ้งเหตุชุมพร" โร่แจ้งความโดนแฮ๊คเฟสบุ๊ค ปล้นเพจไปครอง
เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 นายนันธวัฒน์ พุทธกำเหนิด แอดมินผู้ก่อตั้งกลุ่ม แจ้งเหตุชุมพร ซึ่งมีสมาชิกกว่า 338,000คน ได่เข้าแจ้...

-
แม้ว่าเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจะเป็นอย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดเศรษฐกิจของจังหวัดชุมพร ที่มองและคิดแบบประชาชนทั่วไป คิดง่ายๆ แบบ Positive Thi...
-
วันที่ 27 สิงหาคม 2561ทีมข่าว offer news ได้ลงพื้นที่ ท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เนื่องจากมีการกล่าวถึงในโลกออนไลน์ เ...
-
วันที่3 มกราคม 2562 ณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ได้รับการประสานจากบริษัทลมพ...